ความเชื่อพื้นบ้าน ความเชื่อที่เชื่อต่อกันมาอย่างยาวนานในท้องถิ่น
ความเชื่อพื้นบ้าน เชื่อว่าหลายคน ต้องเคยได้ยินกับคำว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ กันมาอย่างแน่นอนครับ เนื่องจากว่า ในการกระทำบางอย่าง ได้มีผู้หลักผู้ใหญ่ ที่คอยตักเตือน คอยบอกอยู่อย่างเสมอ ความเชื่อโบราณ คือสิ่งที่คนตั้งแต่ ในสมัยก่อนรุ่น ปู่ ย่า ตา ยาย ที่ได่ทำสืบต่อกันมา จนสิ่งนั้นได้กลายมาเป็น ความเชื่อ หรือว่าเป็น ข้อห้าม ที่มักจะแฝงเอาไว้ด้วย กลอุบาย เพื่อทำให้เชื่อกันต่อ ๆ ไปนั่นเองครับ ซึ่งในบทความนี้ก็จะ พูดถึงเรื่อง ความเชื่อของไทย ที่ทำต่อ ๆ กันมายาวนานนั่น มีอะไรบ้างครับ
ความเชื่อพื้นบ้าน ความเชื่อของไทย ที่มีมาตั้งแต่โบราณ มีเรื่องอะไรบ้าง ?
ความเชื่อโบราณ นั้นมีอยู่มากมาย ที่รุ่นปู่รุ่นย่าเรานั้น ได้ทำสืบกันมา มาดูกันในเรื่องแรกก็คือ ห้ามสวมชุดสีดำไปเยี่ยมคนป่วย เหตุก็เพราะว่า สีดำนั้นคือสี ที่คนโบราณจะนับว่า เป็นสัญลักษณ์ที่บอกถึง ความทุกข์ความโศก ในการสวมชุดดำ เพื่อเยี่ยมผู้ป่วย เลยเหมือนกับเป็น การไปแช่งผู้ป่วย เพื่อให้ตายเร็วมากขึ้นนั่นเอง
ความเชื่อของไทย ต่อไปก็คือ ตุ๊กแกร้องเวลากลางวัน จะมี ความเชื่อ ว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น เพราะโดยปกตินั้น ตุ๊กแกที่อยู่ในบ้าน ส่วนใหญ่จะร้อง ในเวลากลางคืน หากร้องเวลากลางวัน จะกลายเป็นลาง ที่บอกถึงเหตุร้ายที่ ความเชื่อโบราณ นั้นเชื่อว่าตุ๊กแกเป็น วิญญาณปู่ย่าตายาย ที่ได้มาอาศัยอยู่ในบ้าน เพื่อคอยคุ้มครอง เหล่าลูกหลาน ให้พ้นภัยอันตรายทั้งหลาย
จิ้งจกร้องทัก หมายถึงว่า เรานั้นห้ามออกจากบ้าน อย่างเด็ดขาดครับ หากว่าเสียงอยู่ที่ หลังหรือว่าตรงศีรษะของเรา มักจะให้เลื่อนการเดินทาง ออกไปก่อน แต่ถ้าเสียงจิ้งจก นั้นได้ทักที่ด้านหน้า หรือว่าทางฝั่งซ้าย หมายถึงเดินทางได้ ก็จะทำให้ใน การเดินทางครั่งนั่น มีความปลอดภัย มีความสะดวกสบาย มีความราบรื่นนั่นเอง
นกขี้ใส่หัว ถือว่าจะเจอโชคร้าย ถ้ากำลังเดินทาง แล้วโดนนกขี้รดที่หัว คนโบราณเตือนว่ส ให้หยุดกับการเดินทาง ในครั้งนั้นก่อนทันที เลื่อนการเดินทางออกไป เป็นออกไปใน วันรุ่งขึ้นแทนก็ได้ จะส่งผลดีกว่าครับ
ความเชื่อพื้นบ้าน ความเชื่อที่ทำสืบต่อกันมา ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน
มาต่อกันที่ ความเชื่อ อย่างที่ห้าก็คือ นกแสกเกาะหลังคาบ้าน ใน โบราณนั้นถือว่า จะมีการเกิดลางร้าย เหตุเพราะว่านกแสก นับว่าเป็นนก ที่มีความอัปมงคล เพราะในธรรมชาติแล้ว นกแสกจะไม่ปะปน ในที่อยู่อาศัยของคนครับ หากว่ามาแล้ว เลยนับว่าเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน
ความเชื่อของไทย อย่างที่หกก็คือ ตัวเงินตัวทองคลานเข้าบ้าน ให้เรานั้นพูดสิ่งดี ๆ อย่าเพิ่งไปไล่ นับว่าเป็น การแก้เคล็ด จะได้มีแต่สิ่งดี ๆ ที่เข้ามาบ้านเรา
ความเชื่อ อย่างที่เจ็ดคือเรื่อง เวลากลางคืนได้ยินเสียงห้ามขานรับ ในสมัยโบราณนั้น มีความเชื่อว่าเป็น เสียงพวกดวงวิญญาณ ที่มาหลอก หรืออีกอย่างก็คือ หากเราขานตอบไป จะเป็นการที่เราเอง ได้ไปเชิญวิญญาณ เพื่อให้เข้ามาอยู่ ที่บ้านของเราได้ ฉะนั้นเงียบเอาไว้ หากไม่รู้ต้นตอ ของเสียงที่ได้ยินครับ
ความเชื่อโบราณ ในเรื่องที่แปดก็คือ มีไฝที่ริมฝีปากล่าง ส่วนใหญ่แล้วมักจะ ถูกเตือนเรื่อง ระวังคำพูด เพราะปากจะนำเคราะห์มาให้ หากว่าพูดแล้วไม่คิด แล้วในสมัยโบราณนั้น มักจะเป็นคนที่ใจร้อน มีอารมณ์ที่ ค่อนข้างจะรุนแรง ไม่ค่อยมีเหตุผล ยับยั้งชั่งใจไม่ค่อยอยู่ เลยเตือนให้ระวัง ในเรื่องแบบนี้ครับ
ความเชื่อพื้นบ้านของไทย ที่เป็นการซ่อนอุบายเตือนลูกหลาน
เรื่องที่เก้าคือ คนใบหูใหญ่มีบุญวาสนา คนที่มีใบหูที่หนา มีใบหูใหญ่ยาน คือคนที่มีศีลธรรม ส่วนใบหูที่มีความบาง โบราณว่าเป็นคนที่ มีความโดดเดี่ยว แต่จะไร้วาสนาครับ
เรื่องที่สิบคือ คนพูดหลายเสียง สังเกตุคนที่พูดจา โดยใช้เสียงหลายเสียง จะถือว่าเป็นคนที่ ค่อนข้างจะคบยาก ไม่ค่อยมีความแน่นอน เชื่อได้ยากครับ
เรื่องที่สิบเอ็ด คนที่หัวล้านเป็นคนเจ้าเล่ห์ เรื่องนี้คงจะมีต้นแบบ จากขุนช้าง ที่อยู่ในวรรณคดี คนโบราณเลยมีความเชื่อ เกี่ยวกับคนที่มี ลักษณะหัวล้านนี้ จะมีนิสัยที่ไปเหมือนกับ ขุนช้างในวรรณคดีนั่นเอง
เรื่องที่สิบสอง เด็กทารกเกิดมามีปาน คนโบราณนั้นมีความเชื่อ กับเรื่องนี้ว่า เป็นเด็กที่ได้เกิดมา ชาติหนึ่งแล้ว ที่ได้โดนป้าย ให้เป็นตำหนิไว้ ถ้าเป็นปานสีแดง โบราณเชื่อว่า โดนป้ายด้วยปูนแดง แต่ถ้าเป็นปานสีดำ แปลว่าโดนป้ายด้วยถ่าน
ความเชื่อโบราณ ในเรื่องต่อไปนั้นก็คือ ห้ามให้ตัดผมในวันพุธ หากตัดผมวันพุธนั้น ทำให้ชีวิตนั้น เกิดความอัปมงคล ด้วยเหตุนี้เอง ร้านตัดผมมากมาย เลยมักจะหยุด จะปิดร้านกัน ในตอนวันพุธครับ
ความเชื่อของไทย ต่อไปก็คือเรื่อง ตาซ้ายกระตุก ความเชื่อนั้นนับว่า จะเกิดเคราะห์ เกิดโชคร้าย แต่หากว่าเป็น ตาขวากระตุก จะกลายเป็นเกิดโชคดี แต่กากเป็นตอนกลางคืน ตาขวากระตุกนั่น ก็จะกลายเป็นไม่ดี มีเหตุร้ายขึ้นมา แต่ถ้ากลางคืนนั้น เป็นตาซ้ายกระตุก แปลว่ามีโชคลาภ ที่ได้มาจากเพื่อนครับ
20 ความเชื่อต่างๆ ที่มีมาตั้งแต่ครั้งโบราณ
เรื่องที่สิบห้าเป็นเรื่อง ไม่เผาศพในวันศุกร์ คนโบราณถือเรื่อง การเผาศพวันศุกร์ ทำให้เกิดทุกข์ แก่คนที่เป็นญาติ เพราะในวันศุกร์นี้ ถือว่าคือวันแห่งโชคลาภ ควรจะจัดงานมงคลแทน
เรื่องต่อไป เรื่องที่สิบหกคือ ห้ามใช้หวีหัก ถ้าเกิดตอนที่สางผม หวีเกิดหักขึ้น แปลว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่ดี ให้เอาหวีที่หักนั้น ไปทิ้งในทันที แม้ว่าซื้อมากี่บาท จะหลักร้อย หลักพัน ก็ห้ามเสียดายครับ ไม่ควรเก็บไว้ใช้ต่อ ไม่เอาไปซ่อม แล้วใช้ใหม่ด้วยครับ
เรื่องที่สิบเจ็ด ได้กลิ่นธูปเวลากลางคืน หากได้กลิ่นของธูป ลอยมาตามลมแล้ว คนโบราณมีความเชื่อ นั่นคือวิญญาณของ ญาติสนิทที่เป็น คนในครอบครัว ได้มาหามาเยี่ยมเยือน
เรื่องที่สิบแปดคือ ก้าวเท้าซ้ายออกจากบ้าน ตอนที่จะออกจากบ้าน ให้เรานั้นตั้งสติก่อน ในการก้าวเท้าขวา ให้ออกไปก่อนฝั่งเท้าซ้าย ถือว่าได้นำโชคดี ที่เข้ามาให้ตัวเอง ในความเชื่อนั้นว่า ร่างกายของมนุษย์ มีพลังงานด้านลบ ที่จะอ่อนแอกว่า ฝั่งทางด้านขวานั่นเอง เราเลยก้าวขาขวา ที่แข็งแรงกว่า ออกไปก่อนครับ
เรื่องที่สิบเก้าคือ ช้อนกระทบตอนกินข้าว ถ้านั่งล้อมวง เพื่อกินข้าวกันอยู่นั้น เกิดมีใครในวง มือถือช้อนกระทบกัน ในตอนที่เอื้อมตัก ไปที่กับข้าว ความเชื่อจะหมายถึง จะมีแขกมาบ้าน ก็แค่เตรียมตัว เพื่อที่จะต้อนรับ รอไว้ก่อนเลยนั่นเอง
มาถึงใน ความเชื่อที่ยี่สิบ ความฝันตอนเช้ามักจะจริง คนโบราณนั้นได้เชื่อว่า การฝันในเวลานี้คือ ช่วงที่เทวดามาโปรดสัตว์ ที่เคยได้เป็น ญาติกรือมิตร ของตัวเราเองครับ ที่ลงมาบอก