
ความเชื่อแปลกญี่ปุ่น มีเรื่องราวความเชื่ออะไร ที่คนญี่ปุ่นนั้น ต่างยึดถือปฏิบัติกันบ้าง ?
ความเชื่อแปลกญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งเรื่องราว ความเชื่อที่ไม่ต่างอะไร กับประเทศไทยเรา ที่โดย่สวนใหญ่นั้น ก็จะเป็นความเชื่อ ที่สืบทอดกันมา จากรุ่นสู่รุ่น ที่เป็นอีกหนึ่งประเพณี ที่ยึดถือและปฏิบัติสืบต่อกันมา โดยที่บางคนนั้น ก็อาจจะมองเป็นเรื่อง ที่ดูงมงายและไร้สาระ ในสายตาของชาวต่างชาติ ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าหากใครไม่มีความเชื่อ ในเรื่องราวดังกล่าวนี้
ก็คงจะดูเป็นเรื่อง ที่ดูงมงายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ที่ในวันนี้เองนั้น ทางเราเองนั้น ก็จะมาแนะนำเรื่องราว ความเชื่อเรื่องแปลก ในประเทศญี่ปุ่นกันบ้าง ว่ามีเรื่องราว ความเชื่ออะไร ที่ประเทศนี้ ได้ยึดถือและปฏิบัติดันบ้างนั่นเอง โดยเรื่องราวความเชื่อเรื่องแรก ที่ตะมาแนะนำนั้น
ก็เป็นในเรื่องของ การตัดเล็บ ในช่วงเวลากลางคืน ที่บ้านเราเองนั้น ก็ดูไม่แปลกอะไร ที่จะตัดเล็บในเวลาดังล่าว แต่ทว่าคนในประเทศญี่ปุ่นนั้น ต่างถือกันเป็นอย่างมาก สำหรับการตัดเล็บ ในช่วงเวลาดังล่าว เพราะเนื่องจากว่า ในอดีตนั้น ในสมัยที่ยังไม่มีไฟฟ้า และความเจริญเข้ามาที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น
โดยชาวบ้าน และคนในหมู่บ้านนั้น ต่างได้มี ความเชื่อเรื่องผี ที่เชื่อกันว่า จะมีวิญญาณ ที่มีจิตใจชั่วร้าย หรือในภาษาญี่ปุ่น จะเรียกกันว่า อะคุเรียว ที่จะออกมาเดินเพ่นพ่าน ในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ที่ชาวบ้านเองนั้น ต่างก็ได้มี ความเชื่อโบราณ ที่ว่าหากชาวบ้านหลังไหน ได้ตัดเล็บในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น
ก็จะมีพลังวิญญาณ ที่จะออกมาจาก ที่ตัดเล็บที่มีชื่อว่า เรเรียวกุ ที่เป็นชื่อเรียก ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองพลังวิญญาณนั้น ก็สามารถเรียกดึงดูด ให้เข้ามาหากันได้ ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าหากตัดเล็บในช่วงเวลากลางคืนนั้น ก็เท่ากับว่า เหมือนไปดึงวิญญาณ ที่ชั่วร้ายมาที่บ้านนั่นเอง
ที่ทำให้ชาวบ้านนั้น ต่างก็เคร่งครัด ในเรื่องการตัดเล็บ ในตอนกลางคืน เป็นอย่างมากอีกด้วย ที่ในสมัยอดีตนั้น เป็นเรื่องที่ดูซีเรียสมาก สำหรับการตัดเล็บ ในช่วงเวลาดังกล่าว ซี่งในปัจจุบันนี้ ความเชื่อเหล่านี้ ก็ได้เริ่ม จางหายไปแล้ว ที่คนญี่ปุ่น ในยุคสมัยใหม่นั้น ก็ดูจะไม่ค่อยแคร์ เรื่องราวความเชื่อ ในเรื่องการตัดเล็บ สักเท่าไหร่ ที่ความเชื่อในการตัดเล็บ ในเวลากลางคืนนั้น ก็ได้ถูกลบเลือนไป ในที่สุด
ความเชื่อแปลกญี่ปุ่น ความเชื่อในเรื่องของตัวเลข และวันที่เป็นวันอัปมงคลนั้นคืออะไร ?
ถ้าหากให้เล่าถึงเรื่องความเชื่อ ในเรื่องตัวเลขของ ความเชื่อ คนญี่ปุ่น นั้นก็คงจะคล้ายคลีงกับ ความเชื่อในบ้านเรา ที่ยึดถือเลขอายุ 25 ปีในวัยเบญจเพศ ที่เป็นปีที่แย่ ที่สุดในช่วงชีวิตนั่นเอง แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นนั้น ก็จะเรียกกันว่า ฮนยะคุ ที่เพศชายและเพศหญิงนั้น ก็จะมีปีที่แตกต่างกัน
โดยผู้ชายนั้น ก็จะเป็นอายุที่ 25 42 และ61ปี แต่สำหรับเพศหญิงนั้น ก็จะเป็น 19 33 และ37ปี โดยจะนับก่อนและหลัง 1 ปีที่เป็นเลขอายุอัปมงคล ของทางประเทศญี่ปุ่น ที่ถือได้ว่าเป็นปีที่ มีเรื่องร้าย ๆ เข้ามาในชีวิต ซึ่งถ้าหากว่า ใกล้ถึงปีฮนยะคุนั้น ชาวญี่ปุ่นที่เชื่อ ในเรื่องดังกล่าวนั้น
ก็จะไปวัด หรือศาลเจ้าเพื่อทำการพิธี ทำการสะเดาะเคราะห์กันอีกด้วยนั่นเอง และสำหรับเลขที่ ชาวญี่ปุ่นมองเป็นเลข ที่ไม่ดีนั้น ก็จะเป็นเลข 4 ที่แปลว่าความตาย และเลข 9 ที่แปลว่าความเจ็บปวด ความทรมาน ในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง
ความเชื่อเรื่องแปลก ของชาวญี่ปุ่น ที่จะต้องซ่อนสะดือ ไม่ให้คนอื่นได้เห็นจริงหรือ ?
เป็นอีกหนึ่งความเชื่อ ที่อาจจะดูแปลก ความเชื่อสุดแปลก ในบ้านเราไปซะหน่อย ที่พ่อแม่ชาวญี่ปุ่นนั้น ก็มักจะเตือนลูก ๆ ให้ปิดสะดือ ในช่วงเวลาที่ฟ้าร้อง หรือว่าฝนกำลังตกอยู่นั่นเอง ที่เป็นความเชื่อ ที่มีชื่อว่าไรจิน หรือความเชื่อ ในเทพเจ้าสายฟ้า และพายุ ที่เทพเจ้าไรจินนั้น ก็จะมีเพื่อนที่ชื่อว่าไรจู
ที่มีนิสัยที่ชอบ เข้าไปนอนในสะดือคนนั่นเอง โดยที่ไรจินนั้น ก็มักจะเรียกไรจู โดยการปล่อยสายฟ้าใส่มาอีกด้วย ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ถ้าไม่อยากจะโดนฟ้าผ่าแล้วล่ะก็ ก็จะต้องปิดสะดือ ให้มิดชิด เพื่อไม่ให้เทพเจ้าทั้งสองนั้น เข้าไปอาศัยอยู่ที่สะดือได้นั่นเอง ที่ต้องบอกเลยว่า ความเชื่อนี้ เป็นกลอุบาย เอาไว้หลอกเด็ก เพื่อป้องกัน การเป็นหวัด จากการนอนเปิดสะดือ ในขณะที่อากาศเย็นนั่นเอง
เรื่องแปลก ในญี่ปุ่น อย่าเขียนชื่อคน ด้วยปากกาสีแดง อีกหนึ่งความเชื่อ ที่ยึดถือปฏิบัติ กันมาจนถึงปัจจุบัน
อีกหนึ่งความเชื่อ สำหรับคนญี่ปุ่น ที่จะไม่เขียนชื่อคน ด้วยปากกาสีแดง เพราะเนื่องจากว่า ในป้ายหลุ่มศพ ของคนประเทศญี่ปุ่น หรือภาษาญี่ปุ่น จะเรียกกันว่า โบะฮิ ที่จะสลักชื่อผู้ตาย ด้วยหมึกสีดำ และหมึกสีแดง โดยสีแดงนั้น ก็จะเอาไว้เขียนชื่อ คนในครอบครัว ของผู้ตายที่ยังมีชีวิตอยู่
และโดยที่หมึกสีดำนั้น ก็จะเขียนเป็นชื่อ ของผู้ที่เสียชีวิต โดยที่ก็ได้ ยึดถือปฏิบัติกันมา จนถึงกระทั่ง ในยุคปัจจุบัน ที่จะไม่เขียนชื่อคน ด้วยสีปากาดำและแดงนั่น ที่ถือได้ว่าเป็นสิ่ง ที่เป็นอัปมงคล ที่ชาวญี่ปุ่นนั้น ก็ยังคงยึดถือ มากระทั่งในยุคปัจจุบันอีกด้วย
ที่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราว ความเชื่อแปลก ที่ในบ้านเรานั้น ก็ไม่นิยม ที่จะเขียนชื่อคน ด้วยปากกาแดงอีกด้วย ที่เป็นอีกหนึ่งเรื่องราว ความเชื่อที่พูดถึง และปฏิบัติกันมา จนถึงในยุคปัจจุบันอีกด้วย ที่เป็นอีกหนึ่งความเชื่อ ที่คล้ายกันกับ ความเชื่อในบ้านเราอีกด้วยเช่นกัน
ความเชื่อเรื่องผี กับการไปไหว้ศาลเจ้า เพื่อการสาปแช่งนั้นคืออะไร ?
อีกหนึ่งรูปแบบ ความเชื่อผีสาง ที่บางท่านเองนั้น อาจจะได้เคยเห็น ในหนังสยองขวัญ ของประเทศญี่ปุ่น ที่อาจจะคุ้นเคยกันมาแล้ว สำหรับพิธีกรรม ในประเทศญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า อุชิ โนะ โคะกุ ไมริ ที่เป็นการเดินทาง ไปศาลเจ้าไป ในช่วงเวลากลางคืน ในระหว่างช่วงตี 1 ถึงช่วงเวลาตี 3นั้น
โดยระหว่างที่เดินทาง ไปศาลเจ้านั้น ก็จะนำตุ๊กตาฟางติดต่อไปด้วย ที่มีชื่อเรียกว่า วะระนิงเกียว ที่เป็นตัวตายตัวแทน ของผู้ต้องการ ที่จะโดนสาปแช่งนั่นเอง ที่จะมาพร้อมกับ ตะปูตัวยาว ๆ ที่เอาไว้สำหรับการทิ่มตุ๊กตา เพื่อให้ผู้ที่ถูกแช่งนั้น บาดเจ็บตามจุดต่าง ๆ ที่โดนตะปูทิ่มแทงนั่นเอง
โดยความเชื่อของชาวญี่ปุ่นนั้น ก็มีความเชื่อว่า ผู้ที่ถูกสาปนั้น จะหมดอาการลงไป หลังจากทำพิธีการสาปแช่งไปแล้ว 7 วันนั่นเอง ซึ่งในทางกลับกัน ถ้าหากผู้ที่ถูกสาปนั้น ได้เห็นตัวเอง กำลังโดนสาปแช่งนั้น คำสาปทุกอย่างนั้น ก็จะย้อนกลับไปหาผู้ ที่ถูกสาปแช่งนั่นเอง ที่เป็นอีกหนึ่งความเชื่อ ที่ชวนขนหัวลุกมากที่สุด