ความเชื่อแปลกรอบโลก ความเชื่อใน สิ่งที่ทำสืบต่อกันมาในแต่ละประเทศ ที่ได้ยินแล้วจะต้องแปลกใจอย่างแน่นอนจะมีอะไรกันบ้าง?
ความเชื่อแปลกรอบโลก ความเชื่อของคนแต่ละประเทศ จะแตกต่างกันไป ตามพื้นที่ที่อยู่อาศัย การเติบโตแต่ละถิ่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง ซึ่งความเชื่อนี้ ถ้าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ก็ถือว่าเป็นความสบายใจ แต่ละบุคคล ซึ่งเราไม่สามารถบังคับ หรือดุด่าผู้อื่น หากพวกเขาเห็นไม่ตรงกับเรา เพราะสิ่งที่พวกเขาเจอมา หรือเราเจอมา
อาจจะไม่เหมือนกัน เราต่างคน ต่างเกิดมาคนละบ้าน ต่างคนต่างนิสัย ไม่สามารถเอาความเชื่อ ส่วนบุคคลนั้น มาตัดสินคนอื่นได้ ทั้งนี้แล้วเราก็ควรจะให้เกียรติ ความเชื่อส่วนบุคคล ของซึ่งกันและกันด้วยนะ วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า ความเชื่อประเทศไหน จะเป็น ความเชื่อสุดว้าว มากที่สุดสำหรับเรา
ความเชื่อแปลกรอบโลก ทำไมถึงไม่ควรมีแขกหรือคนสำคัญคนที่ 13 บนโต๊ะอาหารในมื้อนั้นของเรา
ในประเทศฝรั่งเศสนั้นมีความเชื่อว่า ในการรับประทานอาหาร ในแต่ละครั้งนั้น ไม่ควรมีแขก คนที่ 13 มาร่วมโต๊ะอาหารในมื้อนั้น โดยความเชื่อนี้นั้นเกิดขึ้นมาจาก The Last Supper ซึ่งภาพแห่งประวัติศาสตร์ ภาพหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ โดยเป็นเรื่องราว ของพระเยซูที่ได้ร่วม รับประทานอาหาร กับสาวกทั้ง 12 คน เป็นมื้อสุดท้าย
ก่อนที่จะถูกพระเยซูล่อลวง เพื่อจับไปประหาร โดยในภาพดังกล่าวนั้น จะเป็นเหมือนการรับประทานอาหาร ร่วมกันของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีพระเยซูนั่งอยู่ตรงกลาง ก่อนที่พระเยซูนั้น จะสิ้นพระชมน์บนไม้กางเขนในวันถัดไป บางความเชื่อก็ได้กล่าวว่า คนที่ลุกออกจากโต๊ะอาหาร ระหว่างที่รับประทานอาหารอยู่นั้น จะต้องมีอันเป็นไป
หรือเสียชีวิตในระยะอันใกล้นี้ และบางความเชื่อว่าจะนำความโชคร้ายมาให้กับตนเอง หรือคนที่มาร่วมโต๊ะอาหาร ณ วันนั้น จึงทำให้ร้านอาหารบางส่วน ที่มีความเชื่อนี้นั้น ทางร้านก็จะแก้ไขหรือแก้เคล็ด โดยการนำไข่ ไปวางไว้บนโต๊ะอาหารที่มีคนมา 13 คน เพื่อให้ไข่นั้น เป็นตัวแทนของแขกคนที่ 14 ของมื้ออาหารบนโต๊ะ ณ ครั้งนั้น จนกลายเป็น ความเชื่อจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
ในคืนพระจันทร์เต็มดวงของแต่ละปี จะทำให้เกิดอาการคลั่งจริงหรอ?
ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวงของแต่ละปีนั้น ต้องมีหลายคนที่นึกถึง ตำนานต่าง ๆ เรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ ช่วงเวลาใด เวลาหนึ่ง ที่เกิดขึ้นอยู่ทั่วทุกมุมโลก บางเรื่องก็มีเค้าโครง และทฤษฎีต่าง ๆ ที่พอมาประมาลแล้วก็มีวี่แวว ที่จะเป็นเหมือนเรื่องจริงได้ บางเรื่องก็กลายเป็น เรื่องราวที่ดูโดยรวมแล้ว เป็นเรื่องเพ้อฝันของคนบางคน
จนทำให้เกิดเรื่องราว ที่ขำขันจนถึงปัจจุบันนี้อีกด้วย ในช่วงเวลาที่ พระจันทร์เต็มดวงทำให้คลั่ง นั้น จะต้องมี ความเชื่อที่มีมาอย่างยาวนาน โดยความเชื่อในคืนของ พระจันทร์เต็มดวงนั้น จะทำให้มีผู้คน หรือสัตว์ต่าง ๆ มีพฤติกรรมแปลก ๆ ละเมอเพ้อฝัน ฆ่าตัวตาย ทำกิจกรรมที่ผิดกฏหมาย อาการวิกลจริต พฤติกรรมความรุนแรง
ที่เปลี่ยนแปลงไป และที่ไม่พูดถึงไม่ได้อย่างแน่นอน ก็คือจะทำให้ผู้คนกลายร่าง จากคนเป็นมนุษย์หมาป่า แพทย์ ผู้ชี่ยวชาญ ทางด้านจิตวิทยา มีความเชื่อว่า มีการเชื่อมต่ออันแรงกล้า ระหว่างดวงจันทร์ กับการคลุ้มคลั่ง โดยมีคำบอกเล่าของ ฮิปโปเครตีส บิดาแห่งการแพทย์
หรือแพทย์ชาวกรีก ได้มีการเขียนอธิบาย ไว้เมื่อศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาลว่า “ ผู้ที่ถูกครอบงำด้วยความหวาดกลัว ความตื่นตระหนกและความวิกลจริตระหว่างค่ำคืนจะถูกเยี่ยมเยียนโดยเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ” โดย ความเชื่อจากความหวาดกลัวนี้ เป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญ ที่สนับสนุนความเชื่อดังกล่าว จนทำให้มีผู้คนมีความเชื่อนี้ มีอยู่อย่างแพร่หลาย
ความเชื่อที่มองไม่เห็น กับเรื่องร้องทักของสัตว์ ที่จะทำให้เรามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
ความเชื่อนี้ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เป็นความเชื่อโบราณ ที่มีมาอย่างช้านาน ว่าห้ามออกไปไหนจากบ้านเด็ดขาด หากคุณได้ยินเสียง จิ้งจกร้องทัก ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม ก็ห้ามออก โดยเฉพาะหาก จิ้งจกมาร้องทักอยู่ด้านหลัง หรือตรงกับศีรษะของคุณ เพราะโดยปกติทั่วไปแล้ว ถึงแม้ว่าการใช้ชีวิต ของเรานั้น จะสามารถพบเห็น จิ้งจกได้ทั่วไป
และบ่อยครั้งมากแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่จิ้งจก มันมักจะไม่ค่อยร้องทักออกมา ดังนั้นคนโบราณจึงแนะนำว่า ให้เลื่อนการเดินทางเลยออกไปก่อน รอให้เวลาผ่านไปสักพัก อาจจะเป็นภายในวันนั้นก็ได้ อย่างน้อยก็ต้องรอ ให้เวลาได้ผ่านไป สักระยะหนึ่งก่อน จะดีที่สุด
เพราะการที่อยู่ ๆ จิ้งจกก็ร้องทัก ก็ถือเป็นลางร้าย มีเรื่องราวที่ไม่ดีเกิดขึ้น อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่อย่างไรก็ตาม หากพบว่าเสียงร้องทัก ของจิ้กจกนั้นได้อยู่ ทางด้านหน้า หรือซ้ายมือ จะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ อาจจะมีโชคลาภเกิดขึ้น หรือทำให้การเดินทาง
เป็นไปได้อย่างราบรื่น สะดวกสบาย ไม่มีภัยใด ๆ เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น หากทีจิ้งจกร้องทัก ต้องตั้งใจฟังด้วยนะ ว่ามาจากทางด้านไหน จะได้รู้ว่าตัวเองควร ต้องทำตัวอย่างไร หากจิ้งจกร้องทักขึ้นมา ความเชื่อนี้เป็น ความเชื่อเพื่อความปลอดภัย ในชีวิตเลยก็ว่าได้
ปีใหม่จีนหรือตรุษจีนที่เราคุ้นเคย สิ่งที่ห้ามทำถ้าอยากจะเฮงจะมีอะไรกันบ้าง?
ความเชื่อของเทศกาลที่คนจีน หรือคนที่มีเชื้อสายจีนอย่างเรา ๆ น่าจะคุ้นเคยกันดี ตั้งแต่เด็กเลย เรื่องแรกที่เราคุ้นเคยกันอย่างดี นั่นก็คือ วันตรุษจีนหรือวันขึ้นปีใหม่จีน แน่นอนเลยว่าทุกคน ต้องเคยได้ยินว่ามา ห้ามทำความสะอาดบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการปัด กวาด เช็ด ถู ต่าง ๆ ภายในบ้าน นั้นมีความเชื่อว่าจะปัดเงิน ปัดทอง ปัดความโชคดี
หรือชะล้างสิ่งดี ๆ ที่จะเข้ามาให้ออกไป จากบ้านเรานั่นเอง ซึ่งความเชื่อนี้เป็นสิ่งที่ชอบมาก ๆ เลยตอนเป็นเด็ก ฮ่า ๆ เพราะเป็นเด็กขี้เกียจนั่นเอง มาต่อเนื่องกับความสะอาด อันต่อไปก็คือ ห้ามสระผมในวัยตรุษจีน เนื่องด้วยคำว่า ‘ ผม ’ ในภาษาจีนนั้น มีความพ้องรูป พ้องเสียง กับคำว่า ‘ มั่งคั่ง ’ และยังรวมถึงคำว่า ‘ สุขภาพดี ’ อีกด้วย
ซึ่งการที่พวกเรานั้น สระผมในวันตรุษจีน ก็เปรียบเสมือน กับพวกเรานั้น ได้ชะล้างเอาความมั่งคั่ง และสุขภาพดีออกไป จากตัวพวกเรานั่นเองแหละ ข้อต่อไปก็คือ ห้ามใช้ของมีคม เพราะการที่เราใช้ของมีคม เช่น มีด กรรไกร หรือแม้กระทั่งเข็มที่มีความแหลมคม หากใช้อุปกรณ์ใด อุปกรณ์หนึ่งที่ได้กล่าวมานี้ ในวันตรุษจีนนั้น จะถือว่าเป็นการที่เรานั้น
ได้ตัดเอาโชคลาภต่าง ๆ หรือสิ่งดี ๆ ออกไปจากชีวิต รวมถึงอาจจะเกิดอุบัติเหตุ จากการใช้งานของมีดคมต่าง ๆ ซึ่งการใช้สิ่งของมีคมแต่ละอันนั้น ถือเป็นความอัปมงคลในชีวิตอีกด้วย นอกจากการใช้ของมีคมแล้ว ก็ยังห้ามทำของหัก หรือแตก โดยความเชื่อนี้ก็ จะมีความคล้ายคลึง กับการใช้ของมีคม แต่การทำของแตก หรือหักภายในวันตรุษจีนนั้น
ก็จะทำให้ครอบครับแตกแยก รวมถึงอาจจะมีสมาชิก ภายในครอบครัว เจ็บไข้ได้ป่วย และอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ บางครั้งก็ถือเป็นกุศโลบาย หรือทริคที่ทำให้เราใช้ชีวิต ด้วยความไม่ประมาท ทำให้ชีวิตปลอดภัย และถือเป็นการเริ่มต้นชีวิต ในวันขึ้นปีใหม่อย่างดีเลยที่เดียว ซึ่งความเชื่อนี้ก็ยังเป็น ความเชื่อที่สืบต่อกันมาอย่างช้านาน
