ความเชื่อแปลกสุดหลอน ที่สยองสุดๆกับการกินเลือดวัวของชนเผ่าพื้นเมืองในแอฟริกา จนทำให้ทั่วโลกต้องทึ่งไปตามๆกัน

ความเชื่อแปลกสุดหลอน ในแต่ละประเทศแต่ละจังหวัด แต่ละศาสนานั้นจะมี ความเชื่อน่าทึ่ง ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งวันนี้นี้เราจะมาพาทุกท่าน มาพบกับ ความเชื่อทั่วโลก ที่ท่านไม่เคยรู้มาก่อน กับความสยองที่เกิดขึ้นกับ ชนเผ่าพื้นเมืองของแอฟริกา กับการกินเลือดวัวแบบสดๆ โดยที่พวกเขามีความเชื่อว่า มันมีผลดีต่อร่างกาย

อีกทั้งยังช่วยให้มีภูมิคุ้มกันอีกด้วย ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อของ บอร์ด ชาว Maasai ซึ่งเป็นชาวพื้นที่อาศัยอยู่ ในเมืองทางตะวันออกของ ทวีปแอฟริกา โดยอยู่บริเวณชายแดน เคนยาและแทนซาเนีย ซึ่งมีจำนวนประชากรกว่า 150,000 คน โดยที่พวกเขานั้นจะมี การแต่งกายที่โดดเด่นและ มีความเป็นกเอกลักษณ์ และผู้คนส่วนใหญ่

ประกอบอาชีพ ในการเลี้ยงวัวกันเป็นหลัก ซึ่งสัตว์จะถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ ของชนเผ่าแห่งนี้เป็นอย่างมาก เ้วยการที่มีบทบาทสำคัญในการ ดำเนินชีวิตของคนในชนเผ่า แต่ในเรื่องราวของความเชื่อ ที่ทีความแปลกอย่างมาก มันก็คือสิ่งที่เกี่ยวกับชนเผ่า นั่นก็คือ อาหาร ที่จะมีอยู่ 6 อย่างด้วยกันนั่นก็คือ เนื้อวัว ไขมันวัว น้ำผึ้ง

เปลือกไม้ เลือดของวัว และนมวัว มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก ในการดื่มเลือดวัวสด โดยที่พวกเขาเชื่อกันว่าเลือดของสัตว์นั้น จะมีผลดีต่อร่างกายและสามารถ สร้สงภูมิคุ้มกันให้กับรางกาย โดยที่พวกเขาจะใช้เครื่องมือ ในการทิ่มไปที่บริเวณคอ ของวัวและจากนั้นพวกเขา ก็จะใีการดื่มกินเลือดวัวสดๆ เป็นภาพที่หาดูได้ยากมาก ใครเห็นเป็นต้องตะลึง

ความเชื่อแปลกสุดหลอน ความเชื่อในหมู่บ้านแห่งของอินโดนีเซียกับการนำงูเหลือมยักษ์มาทำเป็นเมนูอาหาร

อีกหนึ่งความเชื่อที่ถือว่า น้อยคนนักที่จะทราบกับ ความเชื่อต่างประเทศ ซึ่งได้มีการรายงานว่า หนุ่มอินโดนีเซียคนหนึ่ง ได้รอดชีวิตจากงูเหลือมยักษ์ ที่ได้กัดเขาเหตุเกิดขึ้นที่ เกาะสุมาตรา ในขณะที่เขานั้นกำลัง พยายามเข้าไปจับงูตัวนี้ แต่สุดท้ายงูยักษ์ที่มีขนาด ยางกว่า 7 เมตร ได้ถูกผู้คนนำไปทำเป็นอาหาร ความเชื่อสุดแปลก

ซึ่งชายหนุ่มคนดังกล่าว พยายามที่จะจับงูเหลือมยักษ์ แต่ในระหว่างนั้นงูยักษ์ตัวนี้ ได้กัดที่แขนและได้ต่อสู้ กับชายหนุ่มซักระยะหนึ่ง และได้รับความช่วยเหลือ จากชาวบ้านโดยที่ชาวบ้าน ก็สามารถจะฆ่างูได้สำเร็จ ซึ่งชาวบ้านอินโดนีเซีย จะได้มีหารนำซากงูดัฃกล่าว ที่มีขนาดใหญ่ถึง 7 เมตร นำมาแขวนไว้กับต้นไม้ ภายในหมู่บ้านของพวกเขา

และหลังจากนั้นพวกเขา ก็ได้มีการชำแหละโดย หั่นเนื้อออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็นำมาทอดกิน เพื่อเป็นอาหารเลี้ยงชีพ รวมไปถึงได้มีการแจกจ่ายให้คนในหมู่บ้านอีกด้วย เป็นเรื่องราวความแปลก ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ในการกินงูเป็นอาหาร ส่วนใหญ่แล้ว

เราจะเห็นคนไทย ก็กินงูเช่นกันก็ยังไม่มีใครที่มีการนำงูเหลือม มาทำเป็นอาหาร เพราะส่วนใหญ่แล้วจะมีการ นำงูเห่าหรืองูสิง มาทำกินซะมากกว่า ถือว่าเป็นความเชื่อหนึ่ง ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน และมันเป็นเรื่องที่แปลกมาก เนื่องจากชางอินโดนีเซีย

เชื่อว่าการกินงูเหลือมนั้น ก็เหมือนกับเนื้อสัตย์ทั่วๆไป มันจึงทำให้ท่านที่ได้ทราบทเรื่องราวความแลปกนี้ ต้องตะลึงไปตามๆกัน กับเรื่องราวความแปลก กับเรื่องราวในครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นจริงแต่เชื่อว่า จะต้องมีหลายๆคนที่ยัง ไม่เคยเชื่อเรื่องราวนี้ แต่มันเป็นเรื่องจริงแน่นอน

ความเชื่อสุดแปลกกับการจัดพิธีกรรมสนุกสนานขึ้นมาโดยใช้ตัวช่วยด้วยเห็ดเมาของชาวรัฐเซีย

หากใครที่ได้ฟังเรื่องความ ความเชื่อโบราณ ที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้ จะต้องงไปตามๆกันซึ่ง ในประเทศไทยของเรานั้น จะมีการนำเห็ดมากินเป็นอาหาร แต่เห็ดส่วนใหญ่ที่คนไทย นำมาทำเป็นอาหารนั้น จะเป็นเห็ดที่สามารถกินได้ และไม่มีผลเสียกับร่างกาย แต่ใครที่ได้มาอ่านเรื่องราว ที่เราจะนำเสนอดังต่อไปนี้ จะต้องทึ่งอย่างแน่นอน

กับเรื่องรางที่เกิดขึ้น ที่ประเทศรัสเซีย ในไซบีเรีย กับการจัดงานปาร์ตี้เห็ดเมา ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในพื้นนที่ จะมีสภาพของภูมิอากาศ ที่มีความหนาวจเย็นอีกทั้ง ยังมีภูมิประเทศที่มีความแห้งแล้ง โดยทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศรัสเซียนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ได้อาศัยอยู่ ในแถบนี้ที่ไม่ได้มีกิจกรรม อะไรให้ทำมากเท่าไหร่

แต่ด้วยการไม่มีอะไรทำนั้น ชาวคอร์ยัค ที่ได้อาศัยอยู่ในภูมิภาคนร้ ก็ได้มีการคิดค้นพิธีกรรม ที่มีคสามสนุกสนานขึ้นมา ที่ได้มีการใช้ตัวช่วยในการ จัดกิจกรรมนัทนก็คือ เห็ดเมา โดยในสมัยโบราณ ชาวคอร์ยัคจะมีการรวมตัวกัน และจะจัดปาร์ตี้ขึ้นช่วงกลางคืน และสิ่งที่พวกเขาทำนั่นก็คือ การจัดงานปาร์ตี้กินเห็ดเมา โดยที่ทุกคนที่ร่วมงานนั้น

ต่างก็สลบไหลไปตามๆกัน จากนั้นจะตื่นขึ้นมาแบบงง พร้อมกับรู้สึกหวาดหวั่น แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ชาวคอร์ยัคจะมีความดีด ซึ่งมีพลังที่จะทำสิ่งต่างๆ กันอย่างสนุกสนาน แต่ถ้าทุกอย่างดูไม่ดีแล้วนั้น พวกเขาก็จะมีล้างพิษของเห็ด กับปัสสาวะตัวเองในแก้ว

เพื่อสามารถจัดงานปาร์ตี้ ต่อไปได้อย่างสนุกสนาน ซึ่งถือว่าความเชื่อและ เรื่องราวแปลกๆนี้ จะมีเพียงแค่ที่นี่เท่านั้น ที่จัดขึ้นอย่างไม่เป็นกังวล ว่รจะเกิดอันตรายที่ตามมา เป็นเรื่องราวแปลกๆ อีกเรื่องหนึ่งที่น่าทึ่ง ที่ทุกคนต้องงงไปตามๆกัน

ความเชื่อแปลกสุดหลอน

ความเชื่อของชาวตอราจากับการเก็บศพของสมาชิกครอบครัวไว้กับบ้าน และทำเหมือนศพยังมีชีวิตอยู่เรื่องราวจะเป็นอย่างไร?

เรามาต่อกันที่ ความเชื่อยุโรป ของชาวตอราจา ที่ใครได้อ่านจะต้องตะลึง ไปกับความเชื่อนี้โดย จะเป็นความเชื่อที่เกี่ยวกับ ความตายโดยจะมีธรรมเนียม ของชาวชาวตอราจา ที่จะมีการเก็บศพของสมาชิก ในครอบครัวของพวกเขาที่ ได้ตายจากไปแล้วไว้กับบ้าน โดยที่พวกเขาจะทำต่อศพ เหมือนกับยังมีชีวิตอยู่แบบปกติ

ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องรางทีา แปลกประหลาดอยู่ไม่น้อย แต่ความจริงแล้วนั้นชาวตอราจา ที่มีมากกว่า 1 ล้านคน ก็จะมีการยึดถือธรรมเนียม และได้มีการปฏิบัตินี้มายาวนาน หลาย 100 ปีเลยก็ว่าได้ เรื่องราวความแปลกนี้จะมีต้นกำเนิด มาจากความเชื่อในเรื่องของ วิญญาณของท้องถิ่นที่ได้มีการ สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งจะมีมาก่อน

ที่มิชชันนารีชาวดัตช์ ที่ได้เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ กับคนในแถบนี้เลยก็ว่าได้ และหลังจากที่พวกเขานั้น ได้เก็บศพเพื่อรอเวลาที่จะเตรียมการ จัดงานศพที่จะมีการจัดขึ้น อย่างยิ่งใหญ่พวกเขานั้นจะใช้น้ำสมุนไพร หรือฟอร์มาลีนในการเก็บรักษา สภาพศพไว้ในระหว่างนั้น โดยที่คนในครอบครัวก็จะมีการ ทำต่อศพเหมือนกับคนป่วย

และจะมีการยกน้ำ และอาหาร รวมไปถึงบุหรี่มาวางไว้วันละ 2 ครั้ง อีผทั้งยังมีกานอาบน้ำให้กับศพ เพื่อทำความสะอาดและจะมีการ เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่เสมอ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะพวกเขายังมีการตั้งกระโถน ไว้มุมห้องให้กังผู้ตาย ได้เข้าห้องน้ำอีกด้วย ซึ่งจะมีคนคอยเฝ้าศพ

และจะเปิดไฟให้สว่างอยู่เสมอ เพราะพวกเขามีความเชื่อว่า ถ้าหากทิ้งให้ศพอยู่คนโดดตามลำพัง มันจะทำให้ผู้ตายนั้นไม่พอใจได้ ซึ่งในการที่พวกเข่ได้เก็บศพ ไว้กับบ้านนานเป็นเวลานาน มันช่วยให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้คลายความเศร้าโศก ที่เกิดขึ้นจากการสูญเสีย ในครั้งนี้ลงไปได้มาก

ความเชื่อกับสิ่งที่มองไม่เห็นกับการเชื่อมต่อสื่อการกับวิญญาณของประเทศเปรูในการทำพิธีการสุดลี้ลับเรื่องราวจะเป็นอย่างไร?

อีกหนึ่งความเชื่อแปลกๆ ที่หลายคนยังไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งเป็นความเชื่อของ ผู้คนในประเทศเปรู ในเรื่องของการเชื่อมต่อกับวิญญาณ โดยที่เรานั้นสามารถพบกับ เคื่องราวความแปลกได้ ถ้าหากว่าใครต้องการ เชื่อมต่อกับสิ่งลี้ลับ ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ ให้ไปสัมผัสกับความแปลก ได้ที่เมืองอีกีโตส ที่จะอยู่ห่างจากลิมา

ไปเพียง 90 นาทีเท่านั้น โดยที่มีผู้คนจำนวนมาก รวมไปถึงเหล่านักเดินทางที่ เดินทางมาที่นี่เพื่อค้นหา หมอผี หรือผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับ พิธีการที่มีความลี้ลับ และได้สัมผัสกับชาอย่าง ayahuasca ที่ได้ทำขึ้นมาจากใบและเถาวัลย์ โดยจะมีสารหลอนประสาท

โดยที่ ayahuasca จะสามารถส่งผลยาวนานถึง 3 วันไปจนถึง 1 สัปดาห์ โดยที่หมอผีจะมีสูตร ที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน และนอกจากชาที่ขึ้นชื่อ ของที่นี่แล้วยังมีพืชอีกมากมาย ที่ให้ค้นพบกับ Ajo Sacha โดยมีความเชื่อกันว่า เป็นการสกัดการไหลของ

พลังงานและรักษาโรค ข้ออักเสบ โดยที่ใครที่อยากจะสัมผัส กับที่เราที่มองไม่เห็น ต้องลองไปที่เมืองแห่งนี้ ทั้งหมดนี้เป็นความเชื่อ และเรื่องราวความแปลก ที่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ และบางเรื่องหลายๆคน ก็ยังไม่เคยพบเห็นมาก่อน ความเชื่อเรื่องวิณญาณ

เว็บแทงบอลเอเชีย

แทงบอลมีกำไร

ความเชื่อน่าอัศจรรย์

ความเชื่อแปลกสุดหลอน